ข้อมูลจากคุณหมอโรงพยาบาลนวมินทร์9 นพ.ชุติเชษฐ์ ปวโรภาส ในรายการอโรคา Life ได้กล่าวถึงเรื่องโรคต้อกระจกว่า โรคต้อกระจก เกิดจากความขุ่นของแก้วตา ซึ่งถ้าเกิดการขุ่นมัวมากๆ ก็จะทำให้ผู้ป่วยนั้นมองภาพไม่ชัดเจน เพราะแก้วตาที่ขุ่น ทำให้กกำลังหักเหของแสงผิดไป และขัดขวางไม่ให้แสงเข้าตา

โรคต้อกระจก (Cataract) มี 2 ประเภท คือ
1. เป็นตั้งแต่กำเนิด จะสังเกตุได้ที่ตาของทารก ว่ามีจุดสีขาว ที่ตาทั้งสองข้าง หรือข้างเดียว ในรายนี้พบได้น้อย แต่หากพบถือว่ารุ่นแรง 2. เป็นภายหลัง พบในผู้สูงอายุ ที่แก้วตาอาจจะได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง หรือมีปัจจัยเสี่ยงมาจาเรื่องอื่นๆ

ปัจจัยเสี่ยง สาเหตุ โรคต้อกระจก

ปัจจัยเสี่ยงแรกคือ อายุที่สูงขึ้น เพราะโรคนี้มักพบในผู้สูงอายุ และการเจอแสงแดดเป็นเวลานาน สะสมมาเรื่อยๆ ทำให้สภาพแก้วตาเสื่อมลง แล้วยังมีปัจจัยอื่นๆที่ส่งผลให้เป็นโรคต้อกระจกได้อีก คือ
- การดูดบุหรี่
- เป็นโรคเบาหวาน
- การใช้ยาบางชนิด เช่น steroid
- ลูกตาได้รับการกระทบกระเทือนโดยตรงอย่างรุนแรง
- เด็กทารก (ที่เกิดจากความผิดปกติตอนที่แม่ตั้งครรภ์)

อาการของโรคต้อกระจก - มองเห็นไม่ชัด เป็นฝ้า คล้ายหมอกลง
- มองพื้นที่สว่างๆไม่ชัดเท่ากับ พื้นที่มืดๆ

นัยตาปรกติด้านซ้าย ต้อกระจกด้านขวา
นัยตาปรกติด้านซ้าย ต้อกระจกด้านขวา

วิธีการรักษา - การผ่าตัด

สิ่งที่คนเป็นโรคต้อกระจกควรหลีกเลี่ยง - หลีกเลี่ยงแสงแดดจัดๆ
- งดสูบบุหรี่
- หลีกเลี่ยงการซื้อยามาใช้เอง
- ควบคุมโรคส่วนตัว จำพวกโรคเบาหวาน

และหากคุณมีอาการเบื้องต้น ก็ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อที่การรักษาจะได้ทันท่วงที เพราะถ้าหากปล่อยทิ้งไว้นานอาจจะถึงขั้นตาบอดได้